L708 Khon Kaen : เธออยู่ไหน
การทำความเข้าใจถึงการมีอยู่ของความเป็นคนอีสานที่มีความสัมพันธ์กับพื้นที่ในมุมมองของรัฐนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเข้าใจได้ยาก
และในขณะเดียวกันในมุมมองของคนอีสานเองก็ขาดความเป็นตัวของตัวเอง
เกิดความลังเลและเกิดคำถามถึงการมีอยู่
และตัวตนของคนอีสานว่าจะต้องให้ความสำคัญกับรัฐกลางหรือความเป็นอีสานตามประเพณี
หรือการหันไปฝักใฝ่ในรัฐสังคมนิยมตามบางพื้นที่ในภูมิภาคอีสาน
ความลังเลได้ดำเนินมาจนถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ปัจจุบันความเป็นอีสานเดิมที่มีโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
แบบดั้งเดิมได้ถูกความเป็นเมืองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิต
ผู้คนชาวอีสานให้ความสำคัญกับความเป็นวัตถุ ค่านิยมที่ไหลบ่ามาทางสื่อต่าง ๆ
เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิต
ความเป็นตัวตนของชาวอีสานในแบบเดิมค่อย ๆ ลดบทบาทลง
โดยเฉพาะชาวอีสานยุคใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นมาภายหลังที่อีสานมีความเป็นเมือง ที่ได้ก้าวข้ามพรมแดนของอีสานเดิมมาแล้ว
จนผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถจะชี้ชัดได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเคยเป็นใคร
จะไปทิศทางไหน อนาคตจะเป็นเช่นไร ถึงแม้ในบางครั้งเราอาจจะตอบอย่างมั่นใจได้ว่าเราเกิดในอีสาน
โตในอีสาน แต่รูปแบบการใช้ชีวิตกลับมีความย้อนแย้งหาตัวตนที่แท้จริงไม่มี
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอีสานในยุคหลังนี้เป็นผลสำเร็จจากชัยชนะของรัฐตั้งแต่อดีตที่พยายามรวม
“พื้นที่ทางกายภาพอีสาน” และ “พื้นที่ทางชีวิต” ของชาวอีสานมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐไทยส่วนกลาง
โดยมีแม่แบบตามประเทศตะวันตกทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ผลในระยะยาวที่เกิดจากการเร่งพัฒนาและความไม่เข้าใจถึงสภาพที่แท้จริงของชาวอีสาน
จึงทำให้เกิดผลกระทบด้านต่าง ๆ ตามมา
สร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบศิลปะที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ดู
(Interactive Art) โดยตัวผลงานมีลักษณะเป็น
3 มิติ ใช้สำเนาแผนที่ทางอากาศของจังหวัดขอนแก่น ชุด L708 เป็นส่วนพื้นรองรับหมุดธงชาติไทยที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น
เพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในการนำหมุดไปปักไว้ยัง “พื้นที่ทางกายภาพ” ของตัวเอง
ผู้สร้างสรรค์ได้ทำการแก้ไขปรับเปลี่ยนตำแหน่งระวางในแผนที่สลับกันภายในชุดแผนที่เพื่อให้เกิดความสับสนระหว่างความเป็นตัวตนของผู้ชมกับพื้นที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตัวเอง
ปฏิสัมพันธ์ได้ดำเนินไปจนกระทั่งนิทรรศการสิ้นสุดลง
พื้นที่ของแผนที่จำลองนั้นก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงกลายเป็นรูปทรงใหม่ที่เต็มไปด้วยหมุดหมายของรัฐไทย
การจัดวางผลงานจะวางไว้บนพื้นห้องนิทรรศการในลักษณะเหมือนมุมมองจากด้านบนเหมือนรัฐมองผู้คนชาวอีสานผ่านแผนที่ทางกายภาพ
15/11/62
Flow : L708 Tetris
Flow : L708 Tetris
เกมส์เตตรีส (Tetris) ถูกสร้างขึ้นจากวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวรัสเซียใน ค.ศ. 1984
เป็นที่นิยมเล่นอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกในเวลานั้น ต่อมาบริษัทนินเทนโด (Nintendo) ของอเมริกาได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นเกมส์แบบพกพาเป็นที่แพร่หลายมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
สิ่งที่ทำให้เตตรีสได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และประสบความสำเร็จไปทั่วโลก
นั่นคือ หลักการจัดระเบียบที่สอดแทรกอยู่ในเกมส์ เพราะในทางจิตวิทยานั้น
มนุษย์ทุกคนล้วนมีความเป็น Perfectionist และปรารถนาที่อยากจะหลีกหนีจากความซับซ้อนวุ่นวายที่ซ่อนลึกอยู่ภายในจิตใจ
จากนั้นเตตรีสจะดึงความสนใจให้ติดอยู่กับเกมส์ด้วยภารกิจทำลายบล็อคที่หล่นลงมาอย่างไม่จบสิ้น
ทำให้มีผู้เล่นเกมส์นี้ที่ติดถึงขนาดคิดจะจัดระเบียบสิ่งของทุกอย่างในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการจอดรถ
หรือของที่วางที่ซุปเปอร์มาเก็ต บางคนสามารถมีอาการได้ถึงขั้นที่เห็นบล็อกเตตรีสหล่นลงมาในฝัน
อาการเหล่านี้เรียกว่า เตตรีส เอฟเฟค (Tetris Effect) อย่างไรก็ตามเกมส์นี้ก็ยังมีข้อดีอยู่
เพราะจากการวิจัยทางการแพทย์พบว่าเตตรีสสามารถช่วยบรรเทาอาการโรค PTSD หรือผู้ป่วยที่มีภาวะความเครียดหลังจากเจออย่างรุนแรง เช่น
ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ และทหารที่เพิ่งกลับจากการรบ
เพราะรูปแบบภารกิจของเกมส์ที่ต้องเกาะติดกับการเลือกชิ้นส่วนที่เหมาะสมลงในช่องว่างนั้น
สามารถดึงสมาธิ และความสนใจของผู้ป่วย
ไม่ให้มีการฉายภาพความรุนแรงซ้ำไปซ้ำมาในสมอง ซึ่งนั่นก็จะสามารถช่วยลดอาการความเครียดได้นั่นเอง
(วอส์ยทีวี: 2556)
ลักษณะการเล่นเกมส์ของเตตรีสที่เป็นการเรียงช่องสี่เหลี่ยมนี่เองที่มีส่วนคล้ายกับการเรียงและการปะติดปะต่อพื้นที่ทางกายภาพของการสร้างแผนที่ทางอากาศในยุคสงครามเย็น
ผู้สร้างสรรค์มีความเห็นว่าลักษณะการสร้างแผนที่และการมองพื้นที่ของอีสานเป็นเพียงแค่เกมส์การเมืองของรัฐไทยและอเมริกาการจัดวางพื้นที่
การสำรวจเกิดด้วยการถ่ายภาพทางอากาศไปทีละระวางบนแผนที่
ภาพถ่ายทางอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกิดการเรียงปะติดปะต่อจนครบตามความประสงค์
โดยมีรัฐบาลกลางและอเมริกาเป็นผู้เล่น และชาวอีสานเป็นผู้ถูกจัดวาง
นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าเกมส์เตตรีสจะเป็นที่นิยมเล่นเพื่อลดแรงกดดันจากเหตุการณ์ใด
ๆ ก็ตามที่ทำให้ผู้เล่นเกิดความกังวน และจะผ่อนคลายลงเมื่อประสบผลสำเร็จในการเล่น
ผู้สร้างสรรค์มองว่าลักษณะดังกล่าวสามารถเทียบเคียงกับความกังวลของอเมริกาและรัฐไทยในภูมิภาคอีสาน
เกิดกดดัน ความกลัวเกรงว่าชาวอีสานจะหันไปนิยมระบอบสังคมนิยม
จึงได้สร้างกระบวนการหรือกลไกในการผ่อนคลายแรงตรึงเคลียดลงด้วยวิธีการเข้ามาจัดการ
“พื้นที่” และคนอีสาน เมื่อได้ผลสำริดในระดับหนึ่งแล้วจึงลดความตรึงเคลียดนั้นลง ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้เป็นงานทัศนศิลป์แบบจัดวางเกมส์และภาพกราฟิกแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม
(Interactive Game Installation) ผลงานจะบรรลุเป้าหมายในการรับรู้ก็ต่อเมื่อได้ลงมือเล่นเกมส์และได้ชมงานกราฟิกบนหน้าจอมอนิเตอร์
ประกอบกับตัวอักษร (Text) อธิบายผลงาน มีการนำภาพแผนที่ทางอากาศแบบกราฟิกมาใช้ในงานอีกองค์ประกอบหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมผลงานเกิดจินตนาการเชื่อมโยงและพยายามอ่านสารที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการสื่อ"การพยายามทำความเข้าใจเพียง 15 วินาที"
|
Art Festival【 Painnale 2018 : LOST MAP 】
Art Festival【 Painnale 2018 : LOST MAP 】
by Painnale organization, at Chiang Mai, At “The Plaza” building( third floor), Night Bazaar, Chang Klan Road, Chiang Mai
by Painnale organization, at Chiang Mai, At “The Plaza” building( third floor), Night Bazaar, Chang Klan Road, Chiang Mai
ถนนมิตรภาพถูกสร้างขึ้นในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม
เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2498
ในระยะแรกเส้นทางเริ่มต้นจากจังหวัดสระบุรีถึงนครราชสีมาระยะทาง 148 กิโลเมตร
โดยความร่วมมือของรัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกา จึงได้ถูกตั้งชื่อว่า “ถนนมิตรภาพ”
เพื่อแสดงถึงความเป็นมิตรระหว่างทั้งสองประเทศ ต่อมา พ.ศ. 2504
ได้สร้างถนนมิตรภาพต่อจากนคราชสีมาจนถึงหนองคายรวมระยะทาง 360 กิโลเมตร
ได้รับความช่วยเหลือจากองค์การบริหารวิเทศกิจแห่งสหรัฐอเมริกา (USOM)
ทำพิธีส่งมอบในช่วงที่ จอมพลถนอม กิตติขจร
เป็นนายกรัฐมนตรี และในพิธีเปิดใช้ถนนนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับราษฎรเอาไว้ว่า
“ถนนหนทางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
ในท้องถิ่นใดก็ตามที่มีถนนไปถึง ความเจริญของท้องที่ การเพิ่มพูนขยายตัวของการทำมาหากินและรายได้ของประชาชนก็ย่อมจะบังเกิดเป็นเงาตามตัวมาด้วย
ทางหลวงสายนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อมวลชนและทรัพยากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างมาก
เพราะจะช่วยเชื่อมชุมนุมชน ไร่นา และตลาดในท้องที่สำคัญๆ หลายแห่ง
ให้ใกล้ชิดติดต่อกัน และจะเปิดทางเพื่อการพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม
ดังเช่นที่ประจักษ์อยู่แล้ว
ในความเจริญทางเศรษฐกิจที่บังเกิดขึ้นกับอาณาบริเวณถนนมิตรภาพในเวลาอันไม่นานมานี้”
การสร้างถนนมิตรภาพนอกจากจะเป็นนโยบายการพัฒนาด้านสาธารณประโยชน์การคมนาคมแล้วการก่อสร้างถนนมิตรภาพนั้นเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐไทยกับอเมริกาซึ่งการเข้ามาของอเมริกานอกจากจะให้การสนับสนุนในการทำถนน
ยังมีการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือในการสร้างแผนที่ทางอากาศโดยการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงสงครามเย็นการที่ระบอบการปกครองแบบสังคมนิยมที่มีต้นทางจากโซเวียตและจีนในสมัยนั้นทำให้ดินแดนอินโดจีน
เช่น เขมร เวียดนาม ลาว ที่ติดชายแดนไทยมีการปกครองโดยคอมมิวนิสต์
ทางรัฐไทยและสหรัฐอเมริกามีความเป็นกังวลใจว่าชาวอีสานซึ่งมีเขตแดนติดกับประเทศเหล่านี้
และยังมีเชื้อสายเดิมเป็นชาวลาว จะมีความเอนเอียง
จึงได้หาวิธีในการที่จะให้ชาวอีสานเกิดความสำนึกในความเป็นไทยและยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบตะวันตกนั่นก็คือประชาธิปไตย
นโยบายการพัฒนาต่าง ๆ จึงไหลบ่ามาทางภาคอีสานในยุคนี้ และเพื่อเป็นการสอดส่งดูพฤติกรรมของชาวอีสานและพื้นที่อื่น
ๆ ที่มีความเสี่ยง รัฐบาลจึงมีการสำรวจและจัดทำแผนที่ทางอากาศทุกที่ของประเทศ
การมอง “พื้นที่” ของภาคอีสานในช่วงนี้จึงเป็นการมองอีสานเป็นเพียง
“พื้นที่ทางยุทธศาสตร์” เพียงเพื่อหวังความมั่นคงและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของรัฐ
โดยรัฐยังไม่ให้ความสำคัญกับ “พื้นที่ของความเป็นคนอีสาน” อย่างแท้จริงทำให้การพัฒนาดังกล่าวขาดความเข้าใจ
ขาดความรู้ ขาดความร่วมมือที่แท้จริงจากภาคประชาชน
ถนนมิตรภาพที่สร้างขึ้นจึงมีนัยยะทางการเมืองแฝงอยู่
และถนนมิตรภาพเองยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
โครงสร้างทางสังคมของชาวอีสาน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความเชื่อ ประเพณีดั้งเดิม
เปลี่ยนผ่านไปเป็นวิถีชีวิตของความเป็นเมือง ตามแบบอย่างทั้งการเมือง เศรษฐกิจ
และสังคม ที่รัฐไทยพยายามให้ทุกพื้นที่ในภาคอีสานเป็นอย่างประเทศทุนนิยมตะวันตก
ผู้สร้างสรรค์สร้างงานในรูปแบบ
วีดีโออาร์ต (Video Art) โดยใช้แผนที่ทางอากาศของจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นตัวแทนของพื้นที่ที่รัฐไทยให้ความสำคัญกับการวางนโยบายการพัฒนาและแผนที่ดังกล่าวมีเส้นทางถนนมิตรภาพตัดผ่านชัดเจน
และใช้รูปทรงของถนนที่ก่อรูปขึ้นจากจุดเริ่มต้นด้านล่างของภาพไปสู่ด้านบนแล้วร่วงตกลงมา
การก่อรูปขึ้นของถนนมีลักษณะเป็นเส้นเหมือนการพุ่งทยายขึ้นของบั้งไฟ
และตกลงมายังพื้นเหมือนกัน รูปทรงองค์รวมที่เกิดขึ้นของเส้นมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์แทนความเชื่อ
และความศรัทธาเดิมของชาวอีสาน
วีดีโออีกส่วนหนึ่งที่นำมาตัดต่อร่วมกันคือวีดีโอเส้นของควันบั้งไฟที่ทยานขึ้นไปบนท้องและขณะเดียวกันก็ทยานลงมาในลักษณะที่สวนทางกัน
เพื่อทำให้ผลงานมีการรับรู้ที่มากขึ้นผู้สร้างสรรค์ยังได้นำเสียงมาใช้ในการตัดต่อร่วมด้วย
งานชิ้นนี้จึงประกอบด้วยภาพวีดีโอและเสียง
นำเสนอผลงานผ่านการฉายจากเครื่องฉายภาพลงบนจอรองรับโดยการจัดสถานที่ให้ผู้ชมงานได้มีระยะการชมที่เหมาะสมด้วยการใช้เก้าอี้เป็นตัวกำหนดระยะ
Khon Kaen Manifesto
Khon Kaen Manifesto : GF Building, Khon Kaen, Thailand
ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วน ในแต่ละส่วนจะมีความสำคัญที่จะช่วยเป็นส่วนเสริมทางด้านการรับรู้เนื้อหาและแนวความคิดที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการที่จะแสดงออก แลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่มีความสัมพันธ์กับพื้นที่การแสดงผลงานคือตึก GF ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นตึกร้างในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ประมาณ พ.ศ. 2542 ในอดีตตึกนี้เป็นตึกสถาบันการเงิน แต่เนื่องด้วยปัญหาการเงินต่อมาสถาบันจึงได้ปิดทำการลง ตึกนี้จึงเป็นสัญลักษณ์และเป็นตัวแทนของความล่มสลายและเป็นผลกระทบจากนโยบายของรัฐในภาคอีสานได้เป็นอย่างดี เพราะจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรกที่รัฐบาลได้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2504 – 2509 มาใช้กับพื้นที่ นโยบายที่เข้ามาในแต่ละยุคสมัยเป็นเพียงนโยบายที่ต้องการสร้างความเป็นรัฐ ต้องการให้ภาคอีสานมีความตระหนักถึงความเป็นหนึ่งของรัฐไทย นโยบายต่าง ๆ จึงเป็นการสร้างเพื่อส่งเสริมความเป็นรัฐผ่านพื้นที่อีสาน มุ่งหวังผลทางด้านการติดต่อผ่านเส้นทางคมนาคมพื้นฐาน เส้นทางการค้าขาย นโยบายการปรับเปลี่ยนให้พื้นที่ขอนแก่นกลายเป็นเมือง จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมา ผู้คนชาวอีสานมีการปรับตัวในการดำเนินชีวิตครั้งใหญ่ โดยหันไปพึ่งพาอาชีพตามแบบทุนนิยม ปรับเปลี่ยนจากภาคการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมการเกษตร มุ่งเน้นปริมาณการผลิตที่สูง เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดการส่งออกเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐ ปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมามากมายสะท้อนผ่าน ประเพณีความเชื่อ วิถีการใช้ชีวิตที่หายไป สภาพแวดล้อมหลังการพัฒนา การเปลี่ยนพื้นที่นาเป็นพื้นที่ทางการค้า เกิดนายหน้าค้าที่ดิน ผู้คนชาวอีสานทิ้งงานภาคการเกษตรไปเป็นแรงงานในเมือง เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านความเป็นอยู่ เกิดปัญหาในสังคมเมือง สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหามาเท่าทุกวันนี้ ยกตัวอย่างปัจจุบันที่มีนโยบายการสร้างทางรถไฟ ก็เกิดปัญหาการเวนคืนที่ดินรอบสถานีรถไฟ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ขาดที่อยู่อาศัย โดยไม่มีนโยบายรองรับ จึงสร้างความลำบากให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ผู้สร้างสรรค์จึงต้องการสะท้อนปัญหาเหล่านี้ผ่านผลงาน เพื่อให้เกิดความตระหนักในพื้นที่ ทั้งผู้มอบนโยบาย และผู้อยู่ภายใต้นโยบาย ให้เห็นความสำคัญของพื้นที่ ของวิถีชีวิต ประเพณีที่ดีงามของชาวอีสานและให้รัฐหันมาให้ความสำคัญกับความต้องการที่แท้จริงของชาวอีสาน
ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วน ในแต่ละส่วนจะมีความสำคัญที่จะช่วยเป็นส่วนเสริมทางด้านการรับรู้เนื้อหาและแนวความคิดที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการที่จะแสดงออก แลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่มีความสัมพันธ์กับพื้นที่การแสดงผลงานคือตึก GF ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นตึกร้างในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ประมาณ พ.ศ. 2542 ในอดีตตึกนี้เป็นตึกสถาบันการเงิน แต่เนื่องด้วยปัญหาการเงินต่อมาสถาบันจึงได้ปิดทำการลง ตึกนี้จึงเป็นสัญลักษณ์และเป็นตัวแทนของความล่มสลายและเป็นผลกระทบจากนโยบายของรัฐในภาคอีสานได้เป็นอย่างดี เพราะจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรกที่รัฐบาลได้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2504 – 2509 มาใช้กับพื้นที่ นโยบายที่เข้ามาในแต่ละยุคสมัยเป็นเพียงนโยบายที่ต้องการสร้างความเป็นรัฐ ต้องการให้ภาคอีสานมีความตระหนักถึงความเป็นหนึ่งของรัฐไทย นโยบายต่าง ๆ จึงเป็นการสร้างเพื่อส่งเสริมความเป็นรัฐผ่านพื้นที่อีสาน มุ่งหวังผลทางด้านการติดต่อผ่านเส้นทางคมนาคมพื้นฐาน เส้นทางการค้าขาย นโยบายการปรับเปลี่ยนให้พื้นที่ขอนแก่นกลายเป็นเมือง จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมา ผู้คนชาวอีสานมีการปรับตัวในการดำเนินชีวิตครั้งใหญ่ โดยหันไปพึ่งพาอาชีพตามแบบทุนนิยม ปรับเปลี่ยนจากภาคการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมการเกษตร มุ่งเน้นปริมาณการผลิตที่สูง เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดการส่งออกเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐ ปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมามากมายสะท้อนผ่าน ประเพณีความเชื่อ วิถีการใช้ชีวิตที่หายไป สภาพแวดล้อมหลังการพัฒนา การเปลี่ยนพื้นที่นาเป็นพื้นที่ทางการค้า เกิดนายหน้าค้าที่ดิน ผู้คนชาวอีสานทิ้งงานภาคการเกษตรไปเป็นแรงงานในเมือง เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านความเป็นอยู่ เกิดปัญหาในสังคมเมือง สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหามาเท่าทุกวันนี้ ยกตัวอย่างปัจจุบันที่มีนโยบายการสร้างทางรถไฟ ก็เกิดปัญหาการเวนคืนที่ดินรอบสถานีรถไฟ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ขาดที่อยู่อาศัย โดยไม่มีนโยบายรองรับ จึงสร้างความลำบากให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ผู้สร้างสรรค์จึงต้องการสะท้อนปัญหาเหล่านี้ผ่านผลงาน เพื่อให้เกิดความตระหนักในพื้นที่ ทั้งผู้มอบนโยบาย และผู้อยู่ภายใต้นโยบาย ให้เห็นความสำคัญของพื้นที่ ของวิถีชีวิต ประเพณีที่ดีงามของชาวอีสานและให้รัฐหันมาให้ความสำคัญกับความต้องการที่แท้จริงของชาวอีสาน
มีรูปแบบเป็นผลงานศิลปะสื่อประสมจัดวาง (Multimedia
Installation Art)
และเป็นงานศิลปะจัดวางที่เจาะจงพื้นที่ (Site Specific Installation Art)
โดย การจัดวางวัตถทางศิลปะ 3
ส่วนประกอบกันขึ้นเป็นชิ้นเดียว
การรับรู้และการชมผลงานจะต้องชมในภาพรวมของผลงานทั้งหมดประกอบกันจึงจะสื่อความหมาย
ผลงานในส่วนแรกจะเป็นรูปแบบกระเบื้องหลังคาดินเผา (ชาวอีสานเรียกกระเบื้องหลังคาดินขอ)
ที่ประกอบสร้างบนไม้อัดจำลองแผนที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงสงครามเย็นที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลไทยร่วมกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
และถูกใช้เป็นแผนที่ทางกายภาพเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และวางนโยบายการพัฒนาของรัฐ
รูปทรงที่เกิดขึ้นในส่วนของดินเผาจะเป็นรูปทรงของพื้นที่ทางกายภาพที่ก่อตัวเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่เกิดจากการสร้างพื้นผิดโดยการเผาดินร่วมกับดินปืน
เป็นรูปร่างสามเหลี่ยมแทนรูปทรงทรางความเชื่อเดิมของชาวอีสาน
ในส่วนถัดมาเป็นส่วนของชนวนดินปืนที่สร้างมาจากรูปทรงของสามน้ำชี
ซึ่งถือเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของชาวอีสานและคนขอนแก่น
อนึ่งอาจมองได้ว่ามีที่มาจากเส้นทางของถนนมิตรภาพที่สร้างจากนโยบายของรัฐ
และอาจจจะมองได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แทนเส้นทางรถไฟได้อีกมุมหนึ่ง
สุดแล้วแต่ผู้ชื่นชมผลงานจะมีประสบการณ์ไปในทิศทางไหน
ผู้สร้างสรรค์ได้ทำการเผาและวางเส้นชนวนปูนปลาสเตอร์เคลื่อนไหวเข้าหาส่วนแผนที่หลังคากระเบื้องดินเผา
ส่วนที่สามเป็นวีดีโอและเสียง
ผู้สร้างสรรค์ยังใช้วีดีโอที่มีความเป็นตัวแทนของความหวังของชาวอีสานผ่านประเพณีบุญบั้งไฟ
ทำให้เกิดการซ้อนทับของอดีตและปัจจุบัน ประกอบกับเสียงที่เป็นการโห่ร้องด้วยความดีใจ
เหมือนการบ่งบอกถึงการมีความหวัง
วีดีโอถูกจัดวางรับกับทิศทางการชมงานผ่านจอมอนิเตอร์
และเสียงส่งสัญญานออกทางลำโพงเสียง ทั้งหมดจะให้เล่นในลักษณะวนซ้ำและเป็นงานศิลปะจัดวางที่เจาะจงพื้นที่ (Site Specific Installation Art)
14/11/62
Affordable Art Fair in a row #1
Affordable Art Fair in a row #1, Noir Row Art Space
ความเป็นตัวตนของชาวอีสาน การมีอยู่ และการเปลี่ยนแปลงของผู้คนชาวอีสาน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านพื้นที่ สังคม การเมือง เศรษฐกิจ ผ่านการใช้ภาพตัวแทนของคนอีสาน เพื่อทบทวนถึงการให้ความสำคัญกับความเป็นอีสานนิยม รวมไปถึงการสร้างจิตสำนึกในความเป็นคนเชื้อชาติ ไท-ลาว เพื่อโยงไปถึงจิตสำนึกในการรักพื้นที่ หวงแหนซึ่งวัฒนธรรมความดีงาม เห็นความสำคัญ หันกลับมาเรียนรู้ทำความเข้าใจ และรักษาความเป็นพื้นถิ่นไว้ให้คงอยู่
ความเป็นตัวตนของชาวอีสาน การมีอยู่ และการเปลี่ยนแปลงของผู้คนชาวอีสาน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านพื้นที่ สังคม การเมือง เศรษฐกิจ ผ่านการใช้ภาพตัวแทนของคนอีสาน เพื่อทบทวนถึงการให้ความสำคัญกับความเป็นอีสานนิยม รวมไปถึงการสร้างจิตสำนึกในความเป็นคนเชื้อชาติ ไท-ลาว เพื่อโยงไปถึงจิตสำนึกในการรักพื้นที่ หวงแหนซึ่งวัฒนธรรมความดีงาม เห็นความสำคัญ หันกลับมาเรียนรู้ทำความเข้าใจ และรักษาความเป็นพื้นถิ่นไว้ให้คงอยู่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)